วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555

๑๐. สุคตสูตร
               ว่าด้วยแบบแผนคำสั่งสอนของพระสุคต
            [๑๖๐]    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  เมื่อพระสุคตก็ดี  วินัยพระสุคตก็ดี ยัง
ประดิษฐานอยู่ในโลก  อันนั้นเป็นไปเพื่อเกื้อกูลแก่คนมาก   เพื่อความสุขของ
คนมาก    เพื่ออนุเคราะห์โลก   เป็นความเจริญ   เป็นผลดี   เป็นความสุขแก่
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 381

            ก็พระสุคตเป็นไฉน ?   คือ   ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้   (อรหํ)  เป็น
พระอรหันต์   (สมฺมาสมฺพุทฺโธ)   เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ   (วิชฺชาจรณ-
สมฺปนฺโน)    เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ    (สุคโต)    เป็นผู้ไปดี
(โลกวิทู)  เป็นผู้รู้แจ้งโลก   (อนุตฺตโร  ปุริสทมฺมสารถิ)    เป็นสารถีฝึก
คนไม่มีใครยิ่งกว่า    (สตฺถา  เทวมนุสฺสานํ)   เป็นผู้สอนเทวดาและมนุษย์
ทั้งหลาย   (พุทฺโธ)   เป็นผู้ตื่นแล้ว   เป็นผู้เบิกบานแล้ว    (ภควา)   เป็นผู้
จำแนกธรรม  นี้คือ  พระสุคต
            วินัยพระสุคตเป็นไฉน ?   คือพระสุคตนั้นแสดงธรรมงามในเบื้องต้น
งามในท่ามกลาง    งามในที่สุด    ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถพร้อมทั้ง
พยัญชนะ    บริบูรณ์บริสุทธิ์สิ้นเชิง    (ธรรมที่พระสุคตแสดง    พรหมจรรย์
ที่พระสุคตประกาศ)  นี้คือ  วินัยพระสุคต
            ภิกษุทั้งหลาย  เมื่อพระสุคตก็ดี  วินัยพระสุคตก็ดี    นี้ยังประดิษฐาน
อยู่ในโลก  อันนั้นเป็นไปเพื่อเกื้อกูลแก่คนมาก  เพื่อความสุขของคนมาก  เพื่อ
อนุเคราะห์โลก   เป็นความเจริญ  เป็นผลดี   เป็นความสุขแก่เทวดาและมนุษย์
ทั้งหลาย
            ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย     ธรรม  ๔   ประการนี้เป็นเหตุให้พระสัทธรรม
เลอะเลือนอันตรธานไป  ธรรม  ๔  ประการเป็นไฉน  คือ
            ภิกษุทั้งหลายในพระวินัยนี้        เล่าเรียนสูตรอันถือกันมาผิดด้วยบท
พยัญชนะที่ใช้ผิด   เนื้อความแห่งบทพยัญชนะที่ใช้ผิด  ย่อมมีนัยอันผิดไปด้วย
นี้
ธรรมประการที่  ๑  เป็นเหตุให้พระสัทธรรมเลอะเลือนอันตรธานไป
            อีกประการหนึ่ง    ภิกษุทั้งหลายเป็นผู้ว่ายาก    ประกอบด้วยธรรมอัน
ทำความว่ายาก ไม่อดทน ไม่รับคำสั่งสอนโดยเบื้องขวา  นี้
ธรรมประการที่  ๒เป็นเหตุให้พระสัทธรรมเลอะเลือนอันตรธานไป
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 382
อีกประการหนึ่ง  ภิกษุเหล่าใดเป็นพหูสูต   เล่าเรียนนิกาย  ทรงธรรม
ทรงวินัย  ทรงมาติกา    ภิกษุเหล่านั้นไม่เอาใจใส่บอกสอนแก่ผู้อื่น   เมื่อภิกษุ
เหล่านั้นล่วงไป  สูตรก็ขาดผู้เป็นมูล  (อาจารย์)   ไม่มีที่อาศัยสืบไป   นี้
ธรรมประการที่  ๓  เป็นเหตุให้พระสัทธรรมเลอะเลือนอันตรธานไปอีกประการหนึ่ง
 ภิกษุผู้ใหญ่ ๆ เป็นผู้สะสมบริขาร  ปฏิบัติย่อหย่อน
มุ่งไปทางจะลาสิกขา  ทอดธุระในปวิเวก  ไม่ทำความเพียร  เพื่อถึงธรรมที่ยัง
ไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ  เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังมิได้ทำให้แจ้ง
ปัจฉิมชนตา  (ประชุมชนผู้เกิดภายหลัง  คือสัทธิวิหาริกและอันเตวาสิกเป็นต้น )
ได้เยี่ยงอย่างภิกษุผู้ใหญ่เหล่านั้น   ก็พลอยเป็นผู้สะสมบริขาร   ปฏิบัติย่อหย่อน
มุ่งไปทางจะลาสิกขา    ทอดธุระในปวิเวก    ไม่ทำความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยัง
ไม่ถึง  เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ  เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังมิได้ทำให้แจ้ง
ไปตามกัน  นี้ธรรมประการที่  ๔ เป็นเหตุให้พระสัทธรรมเลอะเลือนอันตรธานไป
            ภิกษุทั้งหลาย    นี้แลธรรม   ๔   ประการ    เป็นเหตุให้พระสัทธรรม
เลอะเลือนอันตรธาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม