วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เมื่อเธอไม่มี

พาหิยะ! เมื่อใดเธอเห็นรูปแล้ว สักว่าเห็น ได้ฟังเสียงแล้วสักว่าฟัง ได้กลิ่นแล้วสักว่าลิ้ม ได้สัมผัสทางผิวกายแล้ว สักว่าสัมผัส ได้รู้แจ้งธรรมมารมณ์ก็สักว่าได้รู้แจ้งแล้ว  เมื่อนั้น"เธอ" จักไม่มี เมื่อใดเธอไม่มี เมื่อนั้นเธอก็ไม่ปรากฏในโลกนี้ ไม่ปรากฏในโลกอื่น ไม่ปรากฏในโลกทั้งสอง นั่นแหละคือที่สุดแห่งทุกข์.






พุทธวัจน์






.

ท่อนไม้ที่ลอยออกไปได้ถึงทะเล

ภิกษุทั้งหลาย  ถ้าท่อนไม้นั้นจะไม่เข้าไปติดเสียที่ ฝั่งใน หรือฝั่งนอก ไม่จมในกลางน้ำ ไม่ขึ้นไปติดแห้ง
อยู่บนบก  ไม่ถูกมนุษย์จับไว้ ไม่ถูกอมนุษย์จับไว้ ไม่ถูกเกลียวน้ำวนวนไว้ ไม่ผุเสียเองภายในไซร้  ท่อนไม้เช่นกล่าวนี้ จักลอยไหลพุ่งไปสู่ทะเล เพราะเหตุว่า ลำแม่น้ำคงคาโน้มน้อม ลุ่มลาดเอียงเทไปสู่ทะเล.

ภิกษุทั้งหลาย! คำว่า"ฝั่งใน" เป็นชื่อของอายตนะภายใน๖
คำว่า"ฝั่งนอก" เป็นชื่อของอายตนะภายนอก๖
คำว่า"จมเสียในท่ามกลาง"เป็นชื่อของนันทิราคะ(ความกำหนัดเพลิดเพลิน)
คำว่า"ขึ้นไปติดแห้งอยู่บนบก" เป็นชื่อของอัสมิมานะ(ความสำคัญว่าเป็นเรา)
คำว่า"ถูกมนุษย์จับไว้"ได้แก่ภิกษุในกรณีนี้เป็นผู้ระคนด้วยพวกคฤหัสถ์เพลิดเพลินด้วยกัน โศกเศร้าด้วยกัน มีสุขเมื่อคฤหัสเหล่านั้นมีสุข  มีทุกข์เมื่อคฤหัสเหล่านั้นเป็นทุกข์  ประกอบการงานในกิจการที่บังเกิดขึ้นแก่คฤหัสนั้นด้วยตนเองภิกษุนี้เราเรียกว่าผู้ถูกมนุษย์จับไว้
 คำว่า"ถูกอมนุษย์จับไว้" ได้แก่ภิกษุบางรูปในกรณีย์ประพฤติพรหมจรรย์โดยตั่งความปรารถนาเทพนิกายชั้นใดชั้นหนึ่งว่าด้วศีลนี้หรือวัตรนี้หรือว่าด้วยตบะเราจักได้เป็นเทวดาผู้มีศักดาใหญ่หรือเป็นเทวดาผู้มีศักดาน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง เราเรียกว่าผู้ถูกอมนุษย์จับไว้
"คำว่าถูกเกลียวน้ำวนวนไว้" เป็นชื่อของกามคุณ๕
"เป็นผู้เน่าเสียเองภายใน"  คือภิกษุบางรูปในกรณีนี้เป็นคนทุศีล มีความอยู่ลามกไม่สะอาดมีความประพฤติที่ตนเองนึกแล้ว ก็กินแหนงตัวเอง มีการกระทำที่ปกปิดซ่อนเร้น ไม่ใช่สมณะก็ปฏิญญาว่าสมณะ
ไม่ใช่คนประพฤติพรหมจรรย์ ก็ปฏิญญาว่าประพฤติพรหมจรรย์ เป็นคนเน่าและเปียกเเฉะ มีสัญชาติหมักหมม เหมือนบ่อที่เทขยะมูลฝอย ภิกษุเหล่านี้เราเรียกว่าเน่าเสียเองภายในแล.




พุทธวัจน์







.

ผู้ติดตาม