วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สันทิฏฐิโก เป็นธรรมที่ผู้ศึกษาจะถึงรู้ด้วยตนเอง

“ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เห็นรูปด้วยจักษุ ฟังเสียงด้วยหู.... ดมกลิ่นด้วยจมูก.... ลิ้มรสด้วยลิ้น... ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย.... รู้ธรรมารมณ์ด้วยใจแล้ว.... เป็นผู้เสวยรูปเป็นต้นนั้น แต่ไม่เสวยความกำหนัดในรูปเป็นต้นนั้น และรู้ชัดซึ่งความกำหนัด รูปเป็นต้น อันมีอยู่ภายในว่า เรายังมีความกำหนัดในรูปเป็นต้นในภายใน อาการที่ภิกษุ.... รู้ชัดซึ่งความกำหนัดในรูปเป็นต้น อันมีในภายในว่าเรามีความกำหนัดในรูปเป็นต้นในภายใน... และรู้ชัดซึ่งความกำหนัดในรูปเป็นต้นอันไม่มีในภายใน ว่าเราไม่มีความกำหนัด ในภายใน อย่างนี้แลชื่อว่าเป็นธรรมที่ผู้ศึกษาจะถึงรู้ด้วยตนเอง....”

อุปวาณสูตร สฬา. สํ. (๗๙-๘๒)
ตบ. ๑๘ : ๕๐-๕๑ ตท. ๑๘ : ๔๐-๔๑
ตอ. K.S. ๔ : ๒๑-๒๒


http://www.84000.org/true/355.html

นี่แลเป็นไปเพื่อทรรศนะอันบริสุทธิ์

"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บรรดาทางทั้งหลาย มรรคมีองค์แปด ประเสริฐสุด บรรดาบททั้งหลาย บทสี่คืออริยสัจ ประเสริฐที่สุด บรรดาธรรมทั้งหลาย วิราคะ คือ การปราศจากความกำหนัดยินดีประเสริฐที่สุด บรรดาสัตว์สองเท้า พระตถาคตเจ้า ผู้มีจักษุประเสริฐที่สุด

มรรคมีองค์แปด นี่แลเป็นไปเพื่อทรรศนะอันบริสุทธิ์ หาใช่ทางอื่นไม่ เธอทั้งหลายจงเดินไปตามทางมรรคมีองค์แปด นี้ อันเป็นทางที่ทำมารให้หลงติดตามมิได้ เธอทั้งหลายจงตั้งใจปฏิบัติ เพื่อทำทุกข์ให้สิ้นไป ความเพียรพยายามเธอทั้งหลายต้องทำเอง ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอกทางเท่านั้น เมื่อปฏิบัติตนดังนี้ พวกเธอจักพ้นจากมารและบ่วงแห่งมาร"


          มรรค8
 
  1. สัมมาทิฏฐิ
  2. สัมมาสังกัปปะ
  3. สัมมาวาจา
  4. สัมมากัมมันตะ
  5. สัมมาอาชีวะ
  6. สัมมาวายามะ
  7. สัมมาสติ
  8. สัมมาสมาธิ


http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84

ผู้ติดตาม