วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556

ผู้ประเสริฐที่สุดในหมู่ชนผู้มีความรังเกียจด้วยโคตร

กษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐที่สุด     ในหมู่ชนผู้มีความ

                   รังเกียจด้วยโคตร  ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและ

                   จรณะ        เป็นผู้ประเสริฐที่สุดในหมู่เทวดาและ

                   มนุษย์ดังนี้.

http://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=12057

ก้อนหินเท่าเมล็ดถั่วเขียว ๗ ก้อน

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
บุรุษพึงวางก้อนหินเท่าเมล็ดถั่วเขียว  ๗  ก้อนไว้ที่ขุนเขาสิเนรุ  เธอทั้งหลาย
จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน  ก้อนหินเท่าเมล็ดถั่วเขียว  ๗  ก้อนที่บุรุษ
วางไว้กับขุนเขาสิเนรุ   ไหนจะมากกว่ากัน. 

 ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ   ขุนเขาสิเนรุนี้แหละมากกว่า    ก้อนหินเท่าเมล็ด
ถั่วเขียว  ๗  ก้อนที่บุรุษวางไว้มีประมาณน้อย   ก้อนหินเท่าเมล็ดถั่วเขียว
๗  ก้อนที่บุรุษวางไว้เมื่อเทียบเข้ากับขุนเขาสิเนรุ      ไม่เข้าถึงเสี้ยวที่  ๑๐๐
เสี้ยวที่  ๑,๐๐๐  เสี้ยวที่   ๑๐๐,๐๐๐  แม้ฉันใด.

สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้

ดูกรภิกษุ
เหมือนอย่างว่า ภูเขาหินลูกใหญ่ยาวโยชน์หนึ่ง กว้างโยชน์หนึ่ง สูงโยชน์หนึ่ง
ไม่มีช่อง ไม่มีโพรง เป็นแท่งทึบ บุรุษพึงเอาผ้าแคว้นกาสีมาแล้วปัดภูเขานั้น
๑๐๐ ปีต่อครั้ง ภูเขาหินลูกใหญ่นั้น พึงถึงการหมดไป สิ้นไป เพราะความ
พยายามนี้ ยังเร็วกว่าแล ส่วนกัปหนึ่งยังไม่ถึงการหมดไป สิ้นไป กัปนาน
อย่างนี้แล บรรดากัปที่นานอย่างนี้ พวกเธอท่องเที่ยวไปแล้ว มิใช่หนึ่งกัป มิใช่
ร้อยกัป มิใช่พันกัป มิใช่แสนกัป ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะว่า สงสารนี้
กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้
พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่าย ในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะ
หลุดพ้น ดังนี้ ฯ

ผู้ติดตาม