วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554

พระองค์ทรงบัญญัญํติโลกกุตตรธรรมของคนทั่วไป

โลกย่อมยอมรับบัญญัติแห่งทรัพย์สี่ประการอย่างนั้นหรือพราหมณ์!
หามิได้  พระโคดม...
พราหมณ์เอย    เราขอบัญญัติโลกกุตรธรรมอันประเสริฐว่าเป็นของคน
ก็ต่อเมื่อ

ระลึกถึงสกุลวงศ์ทางมารดาบิดาแต่กาลก่อนว่าเป็นตะกูลใดอัตตภาพของเขาย่อมเป็นดังนั้น

เช่นเดียวกับไฟได้อาศัยอะไรเกิดขึ้นย่อมเป็นดังนั้นเช่น ไม้ฟืน สเก็ดไม้ หญ้าแห้ง หรือขี้วัว
เราบัญญัติว่าโลกกุตรธรรมเป็นของคนก็ต่อเมื่อระลึกได้ว่าอัตตภาพของตนมาจากสกุลใดๆฉันนั้น

พราหมณ์! แต่หากกุลบุตรแห่งกษัตริย์ต้องการลาออกจากสกุลกษัตริย์และได้อาศัยพระธรรมวินัยแห่งตถาคตเพื่อละเว้นการทำปาณาติปาต อทินนาทานจากเมถุนธรรม  เป็นผู้เว้นขาดจากมุสาวาท ปิสาวาท ผรุสวาท จากสัมผัปปลาปวาท เป็นผู้ไม่มีอภิชฌาไม่มีจิตพยาบาท เป็นผู้มีสัมมาทิฐิ
ย่อมสำเร็จเเละเป็นเครื่องนำพาออกจากทุกข์ได้
  กุลบุตรเเห่งพราหมณ์ เวสส์ สูทณ ก็ย่อมเป็นเช่นเดียวกัน

พราหมณ์!   พราหมณ์ท่านเข้าใจว่าพราหมณ์เป็นพวกเดียวเท่านั้นหรือที่จะเจริญเมตตากรุณาจิต ชนเหล่าอื่นมิควรเจริญเมตตาจิตและลดการเบียดเบียน ?


หาได้ไม่พระเจ้าข้าพระโคดม    กษัตริย์ก็สมควร เวสส์ก็สมควร สูทรก็สมควร

พราหมณ์ทั้งหลายบัญญัติทรัพย์๔ประการให้แก่

ข้าแต่พระสมณะโคดมผู้เจริญ
พราหมณ์ทั้งหลายได้บัญญัติทรัพย์๔ประการให้แก่
กษัตริย์ พราหมณ์ เวสส์ และสูทรคือ

การเที่ยวภิกขาจารเป็นของพราหมณ์
คันศรและกล่องธนูเป็นของกษัตริย์
คันไถและโครักขกรรมเป็นของเวสส์
เคียวและไม้คานเป็นทรัพของสูทร

เมื่อพราหมณ์เหยียด*การภิกขาจารย์
กษัตริย์เหยียดคันศร  เวสส์เหยียดคันไถ
สูทรเหยียดคันไถและโครักขกรรม
คือการทำกิจนอกหน้าที่




ผู้ติดตาม