"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ความรักเป็นความร้าย ความรักเป็นสิ่งทารุณ และเป็นเครื่องทำลายความสุขของปวงชน ทุกคนต้องการความสมหวังในชีวิตรัก แต่ความรักไม่เคยให้ความสมหวังแก่ใครถึงครึ่งหนึ่ง แห่งความต้องการ ยิ่งความรักที่ฉาบทาด้วยความเสน่หาด้วยแล้ว ยิ่งเป็นพิษแก่จิตใจทำให้ทุรนทุรายดิ้นรนไม่รู้จักจบสิ้น ความสุขที่เกิดจากความรักนั้น เหมือนความสบายของคนป่วยที่ได้กินของแสลง เธอทั้งหลายอย่าพอใจในความรักเลย เมื่อหัวใจยึดไว้ด้วยความรัก หัวใจนั้นจะสร้างความหวังขึ้นอย่างเจิดจ้า แต่ทุกครั้งที่เราหวัง ความผิดหวังก็จะรอเราอยู่"
วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
การแสวงหาทางออก
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! การแสวงหาทางออกอย่างพวกเธอนี้ เป็นเรื่องประเสริฐแท้ การแก่งแย่งกันเป็นใหญ่เป็นโตนั้น ในที่สุดทุกคนก็รู้เองว่าเหมือนแย่งกันเข้าไปสู่กองไฟ มีแต่ความรุ่มร้อนกระวนกระวาย เสนาบดีดื่มน้ำด้วยภาชนะทองคำ กับคนจนๆ ดื่มน้ำด้วยภาชนะที่ทำด้วยกะลามะพร้าว เมื่อมีความพอใจย่อมมีความสุขเท่ากัน นี่เป็นข้อยืนยันว่าความสุขนั้นอยู่ที่ความรู้สึกทางใจเป็นสำคัญ อย่างพวกเธออยู่ที่นี่มีแต่ความพอใจแม้กระท่อมจะมุงด้วยใบไม้ ก็มีความสุขกว่าอยู่ในพระราชฐานอันโอ่อ่าแน่นอนทีเดียว คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตนี้มิใช่คนใหญ่คนโตแต่เป็นคนที่รู้สึกว่าชีวิตของตน มีความสุขสงบเยือกเย็น ปราศจากความเร่าร้อน กระวนกระวาย"
http://www.blogger.com/blogger.g?blogID=612378996237869517#editor/target=post;postID=1266496670919906443;onPublishedMenu=allposts;onClosedMenu=allposts;postNum=0;src=postname
มรรค
http://www.blogger.com/blogger.g?blogID=612378996237869517#editor/target=post;postID=1266496670919906443;onPublishedMenu=allposts;onClosedMenu=allposts;postNum=0;src=postname
มรรค
วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
อมตะ
แม่น้ำไหลใสสอาด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลผู้ตระหนี่เมื่อได้ทรัพย์แล้วก็กักตุนไว้ไม่ถ่ายเทให้ผู้อื่นบ้าง ก็เหมือนแม่น้ำตายไม่มีประโยชน์อะไรแก่ใคร ส่วนผู้ไม่ตระหนี่ เป็นเหมือนแม่น้ำที่ไหลเอื่อยอยู่เสมอ กระแสน้ำก็ไม่ขาด ทั้งยังเป็นประโยชน์แก่มนุษย์ทั้งหลาย เพราะฉะนั้น สาธุชนได้ทรัพย์แล้วพึงบำเพ็ญตนเสมือนแม่น้ำซึ่งไหลใสสะอาด ไม่พึงเป็นเช่นแม่น้ำตาย"
ทุกข์
วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
หน้าที่โดยตรงและเร่งด่วนของเธอ
วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
พระองค์ทรงทราบพราหมณ์สัจจ์
กามทุกชนิดไม่เที่ยงเป็นทุกข์มีความเเปรปรวนไปเป็นธรรมดา
ภพทุกภพไม่เที่ยงเป็นทุกข์มีอันแปรปรวนไปเป็นธรรมดา
เราจักไม่เป็นกังวลแก่สิ่งใดแก่ใครๆและความกังวลแก่เราในสิ่งไหนๆในใครๆไม่มี
นี้แลเป็นพราหมณ์สัจจ์๔
พระองค์ทรงไม่ติดแม้นิพพาน
เหตุที่สาวกบางคนไม่ได้บรรลุ
พระโคดมผู้เจริญ:ทางไปเมืองราชคฤห์ไปได้ครู่หนึ่งจักพบบ้านชื่อโน้นจักเห็นนิคมชื่อโน้นจักเห็นสวนและป่าน่าสนุกจักเห็นภาคภูมิน่าสนุกสระโบกขรณีน่าสนุกบุรุษนั้นพร่ำบอกพร่ำชี้ให้อย่างนี้ก็ยังถือเอาผิดไปในทางตรงกันข้าม แต่บุรุษผู้หนึ่งกลับถึงเมืองราชคฤห์โดยสวัสดิี
พระโคดมผู้เจริญ:ในเรื่องนี้ข้่าพเจ้าจักทำได้อย่างไรเล่า เพราะข้าพเจ้าเป็นแต่ผู้บอกทางเท่านั้น
หนังสือพุทธประวัตจากพระโอษฐ์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)